บริเวณที่พบ : สวนน้ำพุ , อาคารศรีสวรินทิรา , อาคารวัฒนา
ลักษณะพิเศษของพืช : ไม้ดอกประดับดอกสีขาวอมเหลือง ดอกมีกลิ่นหอม
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม ค่อนข้างหนาทึบ เปลือกสีน้ำตาลดำ
ต้น : เป็นไม้ต้นหรือพุ่มกลม แตกกิ่งมาก สูง 1-5 เมตร ลำต้นแก่มีสีเทามีน้ำยางใส
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปไข่กลับถึงรูปใบหอก กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 8-10 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม
โคนใบสอบขอบใบเรียบ ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน
ดอก : สีขาว มีกลิ่นหอมแรงตอนเย็นถึงเช้า ออกดอกเดี่ยวที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบดอกซ้อน บิดเวียนเป็นเกลียว
ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-8 เซนติเมตร
ผล : ผลสด มีทั้งผลสั้นและยาว รูปไข่ถึงรูปแกมรูปขอบขนาน เมื่อแก่สีเหลือง ส้ม เมล็ดจำนวนมาก
เมล็ด :จำนวนเมล็ดประมาณ 3-6 เมล็ด/ ผล มีถิ่นกำเนิดในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ในประเทศไทย มีอยู่มากทางภาคเหนือ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่งกิ่งตอนที่ยาวไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร จะออกรากง่ายโตเร็ว
ประโยชน์ :ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ดอกสวยงามและมีกลิ่นหอมย ปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้าน ตัดแต่งทรงพุ่ม ปลูกเป็นแนวรั้วได้ดีเนื้อหุ้มเมล็ดใช้ทำสีผสมอาหารได้ให้สีเหลือง ดอกใข้ปักแจกันไหว้พระ ใบตำพอกแก้ปวดศีรษะ แก้เคล็ดขัดยอก